ปัญหาท้องผูก และอาการที่ต้องระวัง!

     โดยปกติแล้วคนเรามักถ่ายอุจจาระ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หากเมื่อรู้สึกว่าขับถ่ายได้น้อยลง หรือต้องทนทุกข์ทรมานกับการขับถ่าย เช่น อุจจาระแข็ง ถ่ายไม่สุด ต้องออกแรงเบ่งมากกว่าเดิม อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกว่าคุณกำลังเผชิญกับปัญหา “ท้องผูก” ก็เป็นได้     “ท้องผูก” ความผิดปกติของระบบขับถ่าย เกิดจากการที่ลำไส้มีการบีบตัวช้าลงจนเกิดของเสียตกค้าง ทำให้ขับถ่ายลำบากขึ้น อุจจาระแข็ง หากปล่อยไว้นานอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้  7 อาการ เจอแน่หากปล่อยให้ “ท้องผูก” ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่เรียบเนียน สิวขึ้นง่าย ผิวอักเสบ มีกลิ่นตัว กลิ่นปาก และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ท้องอืด ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ อารมณ์แปรปรวน อ่อนเพลีย คลื่นไส้ เสี่ยงเป็นริดสีดวงทวารหนัก มีเชื้อโรคและแบคทีเรียสะสมในลำไส้ใหญ่ ท้องผูก… ถ่ายไม่ออก เสี่ยงมะเร็งลำไส้ !        รู้หรือไม่? “มะเร็ง” เป็นโรคร้ายอันดับ 1 ที่คร่าชีวิตประชากรทั่วโลก และ “มะเร็งลำไส้ใหญ่”…

อายุมากขึ้น…สายตายิ่งเสื่อมถอย 

     กาลเวลาเปลี่ยนไป อะไร ๆ ก็เปลี่ยนตาม ไม่เว้นแม้แต่เรื่องสุขภาพ ที่เมื่ออายุมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งเสื่อมถอยและมีปัญหาต่าง ๆ มากขึ้นเท่านั้น  ทั้งเรื่องสมอง ความจำ ที่เริ่มมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ ปัญหามวลกระดูก มวลกล้ามเนื้อ ที่ค่อย ๆ ลดลงตามอายุ ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ตีนกา ฝ้ากระ ปัญหาเรื่องการได้ยิน หูตึง รวมไปถึงเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน ป่วยบ่อย หรือไม่สบายได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นภาวะที่แทบทุกคนต้องเจอ แต่มีอีกหนึ่งอวัยวะที่ต้องเจอปัญหามากที่สุดเมื่ออายุมากขึ้น นั่นคือ “สายตา” นั่นเอง       “ตาล้า ตาพร่ามัว ตาไม่สู้แสง สายตายาว มองกลางคืนไม่ชัด ต้อ จอประสาทตาเสื่อม” ปัญหาเหล่านี้ คือภาวะทางสายตาที่เราอาจต้องเจอเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ ของเราก็จะเริ่มเสื่อมถอย หรือมีปัญหาตามมา สายตาของเราเองก็ต้องเจอปัญหาเรื่องความเสื่อมถอยตามอายุเช่นกัน…

อาการเตือน… คุณกำลัง “ขาดวิตามินซี!”

          “วิตามินซี Vitamin C” เป็นวิตามินที่สำคัญอย่างยิ่งต่อร่างกาย หากได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอต่อความต้องการ และปล่อยให้ร่างกายตกอยู่ในภาวะที่ขาดวิตามินซีนานเกินไป อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่สมดุล ป่วยง่าย นำพามาซึ่งภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของเรา 6 อาการเตือน… เมื่อร่างกายขาดวิตามินซี ป่วยง่าย​​วิตามินซีสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานจากภายใน คนที่ขาดวิตามินซีจึงมักมีอาการป่วยบ่อย ภูมิแพ้กำเริบ หรือติดเชื้อได้ง่าย ผิวแห้งวิตามินซีช่วยเสริมสร้างและฟื้นฟูคอลลาเจน หากขาดวิตามินซีจะส่งผลให้ผิวของเราขาดความชุ่มชื้น หยาบกร้าน หมองคล้ำ รวมถึงเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ปวดเมื่อยตามข้อ​คนที่ขาดวิตามินซีมักมีอาการปวดตามข้อและกล้ามเนื้อบ่อยๆ เพราะวิตามินซีมีส่วนช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย หากขาดวิตามินซีอาจทำให้ข้อบวมได้ ผมร่วง  คนที่ขาดวิตามินซีมักมีภาวะผมร่วงมากกว่าปกติ หากปล่อยไว้นานอาจสูญเสียผมอย่างถาวรได้ เลือดออกตามไรฟัน​คนที่ขาดวิตามินซีมักมีอาการเหงือกบวมแดง เพราะกระบวนการผลิตคอลลาเจนผิดปกติ ส่งผลให้มีเลือดออกตามไรฟัน หากปล่อยไว้นานอาจอันตรายถึงขั้นเสียฟันได้ เลือดกำเดาไหล​ใครที่เลือดออกง่ายเป็นไปได้ว่าร่างกายของคุณกำลังขาดวิตามินซี เพราะวิตามินซีช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรงและช่วยให้เลือดหยุดไหล       เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญมากของชาวออฟฟิศแบบเรา ชีวิตประจำวันที่ต้องพบเจอกับความเครียด ทานอาหารไม่ตรงเวลา นอนน้อย และพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้สุขภาพของเราแย่ลง จนสุดท้ายไม่มีเรี่ยวแรงไปต่อสู้กับงานที่ต้องเผชิญทุกวัน การได้รับวิตามินซีอย่างเต็มที่จะช่วยลดความเหนื่อยล้าและเพิ่มความสดชื่นได้ 6 ข้อดี…

กลิ่นตัว” เรื่องวิกฤต ควรวิตก

    “กลิ่นตัว” ถือเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ที่รบกวนการใช้ชีวิตของทุกคน เพราะนอกจากจะสร้างกลิ่นเหม็นกวนใจให้ตัวเองและคนรอบข้างแล้ว ยังส่งผลต่อเรื่องความมั่นใจ และการเข้าสังคมอีกด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ จะปล่อยไว้เฉย ๆ ไม่ได้เลยนะ  กลิ่นตัวเหม็น เกิดจากลำไส้ได้ด้วย ? กลิ่นตัว นอกจากจะเกิดจากเหงื่อแล้ว ยังสามารถเกิดขึ้นจากลำไส้ได้อีกด้วย มาถึงตรงนี้แล้ว ผู้อ่านคงงงล่ะสิว่า เอ๊ะ ? กลิ่นตัวมันจะไปเกี่ยวกับลำไส้ได้อย่างไร เดี๋ยววันนี้ แอดมินจะเล่าให้ฟังเองค่ะ ปัจจัยกลิ่นตัวเหม็น ที่เกี่ยวข้องกับลำไส้ ! เมื่อเรามีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ หรือมีระบบย่อยอาหารที่ไม่ดี จะทำให้เรามีก๊าซหมักหมมอยู่ในลำไส้ เมื่อก๊าซเหล่านี้ ถูกขับออกจากร่างกายทางเหงื่อ หรือทางปาก ก็อาจส่งผลให้เกิดกลิ่นตัวขึ้นได้นั่นเอง การรับประทานอาหารกลิ่นแรง เช่น หัวหอม กระเทียม บร็อคโคลี เครื่องเทศต่าง ๆ  ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ลำไส้ของเราเกิดก๊าซที่มีกลิ่นแรง จนเป็นต้นเหตุของกลิ่นตัวได้เช่นกัน แบคทีเรียในลำไส้  แบคทีเรียในลำไส้บางชนิด สามารถผลิตก๊าซที่มีกลิ่นแรงออกมาได้ หากมีแบคทีเรียชนิดนั้นอยู่มากเกินไป ก็ส่งผลให้เกิดกลิ่นตัวได้ สุขภาพลำไส้ไม่ดี  มีภาวะ “ท้องผูก” “ถ่ายยาก” ก็สามารถทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ เพราะร่างกายจะดูดกลับของเสียจากอุจจาระ…

อย่ามองข้าม… การทานวิตามินซี  ​

     วิตามินซี (Vitamin C) วิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย หนึ่งในทางเลือกดูแลสุขภาพที่ถูกมองข้ามมากขึ้น เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าการมองหาอาหารเสริมที่ดูแลตัวเองอย่างเฉพาะเจาะจงเป็นที่นิยมมากกว่า ทว่าอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย มลภาวะจากฝุ่นควันที่ต้องเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน หน้าหนาว ทำให้คนป่วยเป็นหวัดกันมากขึ้น การกลับมาของ “วิตามินซี” จึงจำเป็นมากที่สุด วิตามินซี… จากธรรมชาติดีที่สุด?        เป็นความจริงที่ว่าการรับประทานวิตามินซีจากธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดี ผักและผลไม้เป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในส้ม ฝรั่ง กีวี สตรอว์เบอร์รี และผักใบเขียว แต่วิตามินซีจากธรรมชาติอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย วิตามินซีในรูปแบบของอาหารเสริมจึงเข้ามาเป็นทางเลือกสำคัญในการดูแลสุขภาพมากขึ้น วิตามินซี​… จำเป็นต่อร่างกายมากกว่าที่คิด!​ ป้องกันหวัด เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง บรรเทาอาการภูมิแพ้ ป่วยง่าย ผิวพรรณสดใส ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึง ชุ่มชื้น แลดูกระจ่างใส ชะลอความเสื่อมสภาพของผิว ร่างกายแข็งแรง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ​ เลือดไหลเวียนดีขึ้น ช่วยควบคุมระดับคอเรสเตอรอล ป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง วิตามินซี… ทานตอนไหนดีที่สุด? ทานพร้อมมื้ออาหาร หรือหลังมื้ออาหารเช้าและเย็น แล้วดื่มน้ำตามเยอะๆ จะช่วยให้วิตามินซีดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น​ ไม่แนะนำให้ทานวิตามินซีตอนท้องว่างหรือก่อนนอน…

“ตามัว” ปัญหาน่ากลัวของคนใช้สายตา

    อาการตามัว จัดว่าเป็นอาการทางตายอดนิยมที่คนหลาย ๆ วัยเคยประสบพบเจอกันมาตลอด มีทั้งชนิดที่รุนแรงและไม่รุนแรง ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงสาระความรู้ของอาการ “ตามัว” กัน           ผู้ที่มีอาการตามัว มักมีอาการตั้งแต่มองภาพไม่ชัดเจน ตาพร่า ตาเบลอ มองเห็นฝ้า ไปจนถึงมองเห็นภาพแคบลง อาการตามัว สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ มีทั้งชนิดที่ร้ายแรงและไม่ร้ายแรง เช่น ในอาการตามัวชนิดที่ไม่รุนแรง อาจเกิดขึ้นจากภาวะตาแห้ง ตาล้าสะสม หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ตา ส่วนในอาการตามัวชนิดที่รุนแรง มักเกิดขึ้นจากการเสื่อมสภาพตามวัย และเกิดจากภาวะหรือโรคทางสายตา เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม จอประสาทตาหลุด / ลอก ต้อกระจก ต้อหินเฉียบพลัน เป็นต้น    อาการอันตรายที่อาจมาพร้อมอาการ “ตามัว” อาการตามัว อย่ามัวปล่อยไว้ เพราะ อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะต่าง ๆ ทางตา ที่อาจตามมา ดังนี้ ต้อกระจก จอประสาทตาลอก จอประสาทตาเสื่อม…

“เบาหวาน… สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของผู้หญิงไทย และอันดับ 9 ของผู้หญิงทั่วโลก”

     สถิติการป่วยเป็นเบาหวานของคนทั่วโลกเป็นที่น่าตกใจเป็นอย่างมากในปัจจุบัน มีผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นผู้หญิงไปแล้วมากกว่า 199 ล้านคนทั่วโลก เพราะพฤติกรรมของหญิงยุคใหม่ที่กินอาหารไม่เป็นเวลา ทำงานหนักจนขาดการออกกำลังกาย และละเลยการดูแลตัวเองจนทำให้มีภาวะอ้วนเกินตัว “โรคเบาหวาน” กับ “ผู้หญิง”      1. “เบาหวาน” พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60 – 79 ปี      2. “เบาหวาน” เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 9 ของผู้หญิงทั่วโลก      3. 2 ใน 5 ของผู้หญิงที่เป็น “เบาหวาน” อยู่ในวัยเจริญพันธุ์      4. ผู้หญิงไทยมีภาวะอ้วนมากเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย ซึ่งนำพาไปสู่การเป็น “เบาหวาน”      5. ผู้หญิงมีโอกาสเป็น “เบาหวาน” ขณะตั้งครรภ์      6….

ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับ “จุลินทรีย์” แต่คุณอาจยังไม่รู้ !

       ในลำไส้ของเรา ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์ 2 ประเภทหลัก ๆ คือ จุลินทรีย์ตัวดี มีหน้าที่ช่วยให้ลำไส้และกระเพาะอาหารของเราทำงานเป็นปกติ ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย และสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ คอยกำจัดจุลินทรีย์ก่อโรค ที่อาจส่งผลเสียต่อลำไส้และสุขภาพ ส่วนจุลินทรีย์ชนิดที่สอง คือ “จุลินทรีย์ตัวร้าย” หรือ “จุลินทรีย์ก่อโรค” ที่ส่งผลเสียต่อลำไส้และทางเดินอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานผิดปกติ ส่งผลให้มีสิ่งสกปรกตกค้างในลำไส้ บ้างทำให้ลำไส้อักเสบ และยังมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและปัญหาสุขภาพองค์รวมของร่างกายอีกด้วย   “จุลินทรีย์ก่อโรค” หรือ “จุลินทรีย์ตัวร้าย” ส่งผลเสียต่อร่างกายด้านใดบ้าง ปัญหาระบบขับถ่าย : ท้องเสีย ท้องผูก ลำไส้แปรปรวน มีแก๊สในกระเพาะ ปัญหากลิ่น : กลิ่นตัว กลิ่นปาก กลิ่นเรอ กลิ่นตด กลิ่นตกขาว กลิ่นน้องสาว ปัญหาสิว : สิวอักเสบ สิวอุดตัน    ปัญหาสุขภาพ : ป่วยบ่อย ระบบเผาผลาญไม่ดี ความเสี่ยงโรคในลำไส้ เช่น…

กินข้าวไม่ตรงเวลา สุขภาพพังไม่รู้ตัว
|

กินข้าวไม่ตรงเวลา สุขภาพพังไม่รู้ตัว

ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ต่างใช้ชีวิตเร่งรีบอยู่ตลอด ทั้งตื่นเช้าไปทำงานให้ทันเวลา แต่ดันเจอรถติด ประชุมเกินเวลา ปั่นงานหัวหมุนตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนละเลยสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างการ “กินข้าว” ไปเสียสนิท พฤติกรรมคุ้นชินเหล่านี้… อาจกำลังทำร้ายคุณอยู่ไม่รู้ตัว! “กินไม่เป็นเวลา กินน้อยเกินไป” ไม่เพียงแต่ทำให้เราหิวเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ วันนี้เราจะมาบอก 4 ข้อเสียที่มาพร้อมกับการกินอาหารไม่ตรงเวลามาฝาก จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย กินไม่เป็นมื้อ กินแล้วนอน เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของ “กรดไหลย้อน” โรคสุดแสนจะฮิตของคนไทย ผู้ป่วยต้องทรมานจากอาการแสบร้อนกลางอก ท้องอืด เรอเปรี้ยว คลื่นไส้ หากปล่อยไว้นานๆ อาจถึงขั้นเป็นโรคกรดไหลย้อนเรื้อรังได้    การกินข้าวไม่เป็นเวลาที่มาพร้อมกับภาวะเครียดสะสมอาจส่งผลกระทบถึงลำไส้ โดยปกติแล้วเมื่อเรากินอาหารเข้าไป ร่างกายจะหลั่งน้ำย่อยออกมาเพื่อย่อยอาหาร แต่ถ้าไม่มีอาหารให้ย่อยก็อาจทำให้เป็นแผลในกระเพาะอาหารและร้ายแรงถึงเป็นมะเร็งได้    หากไม่ได้กินข้าวระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลง เมื่อร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรตก็จะไม่มีพลังงานมากพอในการใช้ชีวิต ส่งผลให้เราอยากอาหารมากขึ้น และเมื่อได้กินมื้อถัดไปก็จะกินในปริมาณมากเกินปกติ  ทำให้เสี่ยงโรคอ้วนและเบาหวาน เมื่อกินข้าวไม่เป็นเวลาจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ร่างกายจะเผาผลาญได้น้อยลง จนท้ายที่สุดระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะเสียสมดุล  “กินข้าวไม่ตรงเวลา” แก้ได้! กินอาหารไม่ตรงเวลาหรืออดอาหารนานๆ นอกจากร่างกายจะเสียสมดุลและเสี่ยงโรคมากขึ้นแล้ว น้ำหนักอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมด้วย เพราะการอดอาหารจะทำให้เราหิวมากกว่าเดิม และเมื่อเราได้ทานมื้อถัดไปก็อาจเผลอกินมากกว่าปกติ เราสามารถหยุดนิสัยเหล่านี้ได้โดยการ พยายามกินมื้อเช้าเพราะเป็นมื้อที่สำคัญและเป็นแหล่งพลังงานของวัน…

End of content

End of content