ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนยุคใหม่ติดการเล่นมือถือทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องมีโซเชียลมีเดียเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องติดตามทุกกระแสให้ถ่วงทัน ไม่เว้นแม้กระทั่งขณะเข้าห้องน้ำ โทรศัพท์มือถือนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เรามักหยิบขึ้นมาฆ่าเวลา ทั้งตอบแชท เล่นโซเชียล ดูคลิปวิดีโอ หรือเล่นเกม
แต่! พฤติกรรมการนั่งแช่พร้อมเล่นมือถือไปด้วย ส่งผลร้ายกว่าที่คิด โดยเฉพาะในห้องน้ำที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคและแบคทีเรีย ทำให้เราเสียสุขอนามัย เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ และอาจนำพามาซึ่งโรคร้ายต่างๆ
โรคแฝงที่มาพร้อมกับพฤติกรรม “เล่นมือถือตอนเข้าห้องน้ำ”
-
- เหน็บชา หน้ามืด
การนั่งถ่ายเป็นเวลานานๆ โดยไม่ได้เปลี่ยนท่าทางทำให้เกิดอาการเหน็บชา ส่วนการก้มหน้าจ้องมือถือแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก็ทำให้หน้ามืดได้เช่นกัน ฟังดูอาจเป็นเพียงอาการเล็กน้อย แต่สิ่งเหล่านี้เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการลื่นล้มหรืออุบัติเหตุได้
- เหน็บชา หน้ามืด
-
- ท้องผูก
การจดจ่อกับโทรศัพท์มือถือทำให้ไม่มีสมาธิในการขับถ่าย เลยต้องใช้เวลาในห้องน้ำนานมากขึ้น พฤติกรรมการนั่งแช่บนชักโครกนำไปสู่อาการท้องผูกได้ เพราะการหลุดโฟกัสจากการขับถ่าย ทำให้ของเสียในลำไส้หยุดเคลื่อนตัวและอุจจาระไม่ออกในที่สุด
- ท้องผูก
-
- ริดสีดวงทวารหนัก
การนั่งถ่ายนานๆ และการเบ่งจะเพิ่มแรงดันบริเวณหูรูดทวารหนัก ทำให้เกิดเลือดคั่งบริเวณนั้น ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคริดสีดวงทวารหนัก
- ริดสีดวงทวารหนัก
-
- ท้องร่วง
โทรศัพท์มือถือเป็นพาหะนำเชื้อโรคและแบคทีเรียจากมือของเราที่สัมผัสสิ่งต่างๆ ขณะเข้าห้องน้ำ และเมื่อเราออกไปใช้ชีวิตประจำวัน หยิบอาหารเข้าปาก ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นท้องร่วงได้
- ท้องร่วง
ข้อแนะนำในการใช้ห้องน้ำที่ถูกต้อง
ไม่ควรใช้เวลาในการขับถ่ายเกิน 10-15 นาที ควรเข้าห้องน้ำเมื่อรู้สึกปวดถ่ายจริงๆ โฟกัสในการขับถ่ายอย่างเดียวแล้วออกจากห้องน้ำทันทีเมื่อทำธุระเสร็จ
เห็นแล้วว่าพฤติกรรมเล็กน้อยจากการเข้าห้องน้ำก็อาจส่งผลร้ายต่อร่างกายได้ ดังนั้นเราควรปรับเปลี่ยนความเคยชินของตัวเอง ลดการนั่งขับถ่ายพร้อมเล่นมือถือไปด้วย ไม่วางโทรศัพท์มือถือไว้ทั่วห้องน้ำ รวมถึงล้างมือและเช็ดอุปกรณ์สื่อสารของตัวเองให้สะอาด
เพื่อสุขภาพที่ดีเราควรหมั่นขับถ่ายให้เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคที่มาจากปัญหาลำไส้ได้มากขึ้น